ประเด็นร้อน

สั่งเด้งกราวรูด ตำรวจ 191

โดย ACT โพสเมื่อ Apr 17,2017

 ที่ปรึกษา (สบ 10) สั่งเด้ง 12 ตำรวจ ตั้งแต่ รอง ผบก.ผบ.หมู่ สังกัด191-บก.อคฝ. ขณะที่ "บิ๊กโจ๊ก" ผบก.สปพ. สั่งตั้งกรรมการสอบสวนฟันวินัยซ้ำ หลังพบหลักฐานรีดส่วย  ยันไม่ปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนกับประชาชนเด็ดขาด สาเหตุมาจาก สปท. นำหลักฐานโชว์ในที่ประชุมว่าตำรวจกลุ่มนี้เรียกรับผลประโยชน์จากร้านขายอะไหล่รถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้าน ป.ป.ท. ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ตร. รับส่วยบ่อน

          
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 13 เม.ย.  มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เดชา ชวยบุญชุม ที่ปรึกษา (สบ 10) ได้ลงนามในคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ที่ 17/2560 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. ให้ข้าราชการตำรวจ 12 นาย ในสังกัด บก.สปพ. หรือ 191 และ บก.อคฝ.บช.น. ตั้งแต่ตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ถึง ผบ.หมู่  ปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา
          
ทั้งนี้ตำรวจทั้ง 12 นาย ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอางค์ รอง ผบก.สปพ. 2.พ.ต.ท.รวีโรจน์ เปล่งศรียศภัทร รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. 3.ร.ต.ท.ถวิน พัฒนกุลอนันต์ รอง สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. 4.ร.ต.ท.จารึก โทนอ่อน รองสารวัตรงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. 5.ด.ต.ณทัศพงณ์ กะปุระ 6.ด.ต.วสันต์ กรุพิมาย 7.ด.ต.ชนก คชเสนีย์ 8.ด.ต.ภัทรายุทธ์ ศรีสุวรรณ ผบ.หมู่งานสายตรวจ กก.สายตรวจ บก.สปพ. 9.ส.ต.ต.วัชระ กงศร ผบ.หมู่งานสายตรวจและอารักขา กก.สุนัขและม้าตำรวจ 10. ส.ต.ต.ภาสชัย พงศ์พัฒนหยก 11. ส.ต.ต.จักรพงษ์ อภิวงศ์ และ 12.ส.ต.ต.สุรัตน์ นาเจิมพลอย ผบ.หมู่กองร้อย 1กก.ควบคุมฝูงชน 1 บก.อคฝ.
          
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า  พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. (191) มีคำสั่งบก.สปพ. ที่ 141/2560 ลงวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ในที่ประชุมสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.)  ได้กล่าวถึงเรื่องที่มีข้าราชการตำรวจสังกัดสปพ. เรียกรับผู้ประกอบการจากการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ จึงตั้งให้ พ.ต.อ.ชยเดช บรรจงรักษ์  รอง ผบก.สปพ. เป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีการกระทำผิดวินัยหรือไม่  แล้วเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
          
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวเป็นชุดที่อยู่มาก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง น่าจะกระทำผิดลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง ภายหลังได้มีผู้ร้องเรียนไปยังรัฐสภาว่าตำรวจดังกล่าวใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับเงินกว่า 800,000 บาท ตนได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติการที่ทำหน้าที่สืบสวนปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา คาดว่าภายหลังจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ภายในสัปดาห์หน้าจะทราบผลการตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดทางวินัยหรือไม่
          
"นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการกองวินัย (ผบก.วน.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ยืนยันตำรวจในสังกัดทำผิดจะไม่ปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างเด็ดขาด" ผบก.สปพ. กล่าว
          
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คำสั่งให้ตำรวจทั้ง 12 นายช่วยราชการดังกล่าว สืบเนื่องจากมีการนำหลักฐานแสดงในที่ประชุม สปท. ระบุว่ามีกลุ่มตำรวจ สังกัด 191 เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการร้านจำหน่ายอะไหล่รถในพื้นที่ กทม. โดยเรียกรับผลประโยชน์รายเดือน เมื่อตรวจสอบแล้ว จึงเสนอให้ย้ายตำรวจทั้ง 12 นายช่วยราชการ และตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป
          
ขณะที่ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.)  กล่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ท.กำลังดำเนินการตรวจสอบการรับส่วยจากบ่อนผิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคดี และเปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือส่วนอื่น ๆ รับส่วยจากบ่อนผิดกฎหมาย ซึ่งนอกจากข้อมูลจากตำรวจแล้ว ป.ป.ท.จะติดตามข้อมูลการรับส่วยด้วยตัวเองด้วย เพราะการตรวจสอบดังกล่าวถือว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ท. โดยได้สั่งการเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลก่อนสรุปเสนอคณะกรรมการป.ป.ท.แล้ว

- -สำนักข่าว เดลินิวส์ วันที่ 14 เมษายน 2560 - -